ความพึงพอใจในคุณภาพชีวิตการทางานที่มีความสัมพันธ์ต่อความสมดุล ระหว่างชีวิตและการทางานของพนักงานธุรกิจอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ : กรณีศึกษา บริษัท ทีพีไอ โพลีน จากัด (มหาชน)

Abstract

งานวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจในคุณภาพชีวิตการทำงานที่มีความสัมพันธ์ต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานของพนักงานธุรกิจอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ กรณีศึกษา: บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่บุคลากรที่ทำงานอยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ที่มีอายุ 22 ปี ขึ้นไป จำนวน 285 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่นำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Independent Sample t-test, One-way ANOVA, LSD (Least Significant Difference) และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุอยู่ระหว่าง 22 ถึง 26 ปี มีสถานภาพโสด มีการศึกษาสูงสุดอยู่ในระดับปริญญาตรี และมีผู้อยู่ในความอุปการะ 1 ถึง 2 คน ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นต่อความพึงพอใจในคุณภาพชีวิตการทำงานโดยภาพรวมในระดับมาก และมีความคิดเห็นต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานในระดับมาก ผลการทดสอบ สมมติฐานพบว่า พนักงานที่มีปัจจัยส่วนบุคลด้านสถานภาพ และระดับการศึกษาสูงสุดต่างกันมีความสมดุลระหว่างชีวิตและการทางานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 และความพึงพอใจในคุณภาพชีวิตการทำงานโดยภาพรวมมีความสัมพันธ์กับความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานโดยภาพรวมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01

The purpose of this study was to investigate the satisfaction in work life quality that correlated with the work-life balance of the cement industry employees, a case study of TPI Polene Public Company Limited. The samples were 285 employees having been working in the cement industry, aged 22 years and over. A questionnaire was used to collect data. Statistics employed for data analysis comprised frequency, percentage, mean, standard deviation, Independent Sample t-test, One-wayANOVA, LSD (Least Significant Difference), and Pearson's correlation coefficient. It was found that most of the respondents were female, aged between 22 and 26 years, single, holding bachelor’s degree with 1-2 dependents. Their overall satisfaction in quality of work life and work-life balance was at a high level. The results of the hypothesis test showed that their different marital status and educational background resulted in different opinions on work-life balance at a statistically significant level of 0.05. However, their overall satisfaction in quality of work life correlated with work-life balance at a 0.01 level of statistical significance.