การศึกษาดนตรีและเสียงประกอบสปอตโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียงที่มีอิทธิพลต่อผู้ฟัง

Abstract

การศึกษาเรื่องการศึกษาดนตรีและเสียงประกอบรายการโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียงที่มี อิทธิพลกับผู้ฟังการวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1)เพื่อเปรียบเทียบรูปแบบดนตรีที่เหมาะสมที่สุดกับตัวสปอต วิทยุ 2)เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจของสปอตทั้ง 3 รูปแบบ ได้แก่ ดนตรี อะคูสติก คลาสสิก และ แจ๊ส โดยมีการประเมินคุณภาพด้านการผลิตรายการวิทยุ ด้านการผลิตสื่อเสียง และ ด้านการโฆษณากลุ่ม ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ นักศึกษาคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลธัญบุรี จำนวน 100 คน เครื่องเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการศึกษา เรื่องการศึกษาดนตรีและเสียงประกอบรายการโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียงที่มีอิทธิพลกับผู้ฟัง สถิติที่ใช้ใน การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบ ความแตกต่างระหว่าง ค่าเฉลี่ยของ 3 ตัวอย่างขึ้นไป ผลการศึกษาพบว่าการศึกษาเรื่องการศึกษาดนตรีและเสียงประกอบรายการโฆษณาทาง วิทยุกระจายเสียงที่มีอิทธิพลกับผู้ฟัง กลุ่มตัวอย่างพอใจกับสปอตโฆษณาในรูปแบบดนตรีคลาสสิกมาก ที่สุด มีค่าเฉลี่ย 3.54 อยู่ในระดับมาก รองลงมา เป็น ดนตรีแจ๊ส มีค่าเฉลี่ย 3.51 ลำดับสุดท้ายคือ ดนตรีอะคู สติก มีค่าเฉลี่ย 3.42 อยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งสรุปผลได้ว่าการนำดนตรีคลาสสิกมากใช้ในการทำสปอต โฆษณาสามารถสร้างความพึงพอใจต่อผู้ฟังมากที่สุดในรูปแบบดนตรีทั้ง 3 ชนิด

The purposes of this study were to 1) compare the forms of different kinds of background music that most suited radio advertising; and2) compare the audience’s satisfaction of the three kinds of music radio advertising that were comprised of acoustic, classic, and jazz music. The quality ofradio production in terms of media production and audio advertising were evaluated. The sample used in the research was comprised of 100 studentsfrom theFaculty of Mass Communication Technology, RajamangalaUniversity of Technology Thanyaburi. As a research instrument, a questionnairewasused to evaluate the audience’s satisfaction of the music and sound on the radio advertising that influenced the audience. The statistics used in the research were percentage,mean, standard deviation, and analysis of variance for the three mean values. The results showed that music and sound on radio advertisinghad an influence on the audience. The sample wasmost satisfied with the spots in the form of classical music with a mean of 3.54, followed by jazz 3.51, and acoustic 3.42, which was at the average level. The study concluded that out of the three kinds of music on radio advertising, classical music had the most influence on the audience satisfaction.