การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดอย่างมีวิจารณญาณจากการจัดการเรียนรู้แบบไตรสิกขากับการจัดการเรียนรู้แบบปกติ เรื่องงานประดิษฐ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มการงานอาชีพและเทคโนโลยีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการเรียนรู้แบบไตรสิกขากับการเรียนรู้แบบปกติ 2) เพื่อเปรียบเทียบการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการเรียนรู้แบบไตรสิกขากับการเรียนรู้แบบปกติ 3) เพื่อเปรียบเทียบการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการเรียนรู้แบบไตรสิกขา ก่อนเรียนและหลังเรียน สถิติที่ใช้คือ คะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียน พระอินทร์ศึกษา(กล่อมประชาอุทิศ) อำเภอวังน้อย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต 1 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 70 คน แบ่งเป็น 2 ห้องเรียน คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 จำนวน 35 คน เป็นกลุ่มทดลองใช้การเรียนรู้แบบไตรสิกขา และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/3 จำนวน 35 คน เป็นกลุ่มควบคุมที่เรียนรู้แบบปกติ ซึ่งได้กลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (จับฉลากห้องเรียน) ใช้เวลาการทดลอง 3 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง รวม 6 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบไตรสิกขาจำนวน 3 แผน และแผนการจัดการเรียนรู้แบบปกติจำนวน 3 แผน ซึ่งใช้เนื้อหาเดียวกัน คือ เรื่องความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับงานประดิษฐ์ เรื่องการประดิษฐ์ดอกกุหลาบจากถุงพลาสติก และเรื่องการประดิษฐ์ดอกยิปโซจากกระดาษโฆษณาสินค้า 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 3) แบบทดสอบวัดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ผลการวิจัยพบว่า 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้จากการเรียนรู้แบบไตรสิกขามีคะแนนสูงกว่าการเรียนรู้แบบปกติมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติระดับ .05 2. การคิดอย่างมีวิจารณญาณจากการเรียนรู้แบบไตรสิกขาสูงกว่าการเรียนรู้แบบปกติมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05 3. การคิดอย่างมีวิจารณญาณจากการเรียนรู้แบบไตรสิกขาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

This research was intended to 1) compare achievement on Work Occupation and Technology, about Artificial Flowers, group of Mattayom suksa 2students taught through the Threefold Training Method and Conventional Instruction Approach, 2) compare critical thinking of Mattayom suksa 2 students taught through the Threefold Training Method and the Conventional Instruction Approach, and 3) compare the pre-test and post-test critical thinking of Mattayom suksa 2 students taught through Threefold Training Method. The data was analyzed to calculate mean ( ), standard deviation (S.D.) and t-test. The sample groups were 70 students, Mattayom suksa 2 , Phra In Suksa School (Klom Prachauthit) Wangnoi District, Ayutthaya Primary Education Service Area Office 1 in the 2nd semester of the academic year 2010. They were divided into two groups ,the experimental group consisted of 35 students taught through the Threefold Training Method and the control group consisted of 35 students Conventional Instruction. The research instruments consisted of: 1) the three lesson plans follow in Threefold Training Method and the three lesson plans follow in Conventional Instruction which had the same content. 2) the achievement test and 3) the critical thinking test. The results were shown in the following. 1. The achievement of taught through the Threefold Training Method was significantly higher than those taught through the Conventional Instruction. Approach at .05 level. 2. The critical thinking of taught through the Threefold Training Method significantly higher than those taught through the Conventional Instruction. Approach at .05 level. 3. The post-test scores of the critical thinking taught through the Threefold Training Method significantly higher than the pre- test scores at .05 level.