กิจกรรมเกมความจริงเสริมวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการบวกและการลบจำนวนไม่เกินหนึ่งแสนสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพเกมความจริงเสริม วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังใช้เกมความจริงเสริม และ 3) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ โรงเรียนวัดปทุมนายก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 2 จังหวัดปทุมธานี จำนวน 9 คน โดยใช้เทคนิคการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะ เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ กิจกรรมเกมความจริงเสริมวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการบวกและการลบ จำนวนไม่เกินหนึ่งแสนสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน และความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีสำหรับการทดสอบอันดับลงนามของวิลคอกสันสำหรับค่าวิกฤตตัวอย่างเดียวสำหรับ W ที่มีอัลฟาสองด้านเท่ากับ .05 ผลการวิจัยพบว่า กิจกรรมเกมความจริงเสริมทางคณิตศาสตร์ในการบวกและการลบตัวเลขจำนวนไม่เกินหนึ่งแสนสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E1/E2 เท่ากับ (82.40/81.33) หลังจากเรียนรู้กิจกรรมเกมความจริงเสริมในวิชาคณิตศาสตร์ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานก่อนเรียนเท่ากับ 8.80 และ 2.33 คะแนน t-test ระหว่างก่อนและหลังเรียน 20.68 คะแนน แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 จากกิจกรรมเกมความจริงเสริมวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการบวกและการลบจำนวนไม่เกินหนึ่งแสนสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้พอใจกับกิจกรรมเกมความจริงเสริมวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการบวกและการลบจำนวนไม่เกินหนึ่งแสนซึ่งอยู่ในระดับสูง โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.51

The objectives of this research were:1) to determine the effectiveness of augmented reality game activities on Mathematics for Primary 5 (Grade 5) students with learning disabilities, 2) to compare learning outcomes before and after using augmented reality games and 3) to evaluate the satisfaction of students with learning disabilities. The samples comprised 10 students with learning disabilities from Wat Pathum Nayok school under the supervision of the Primary Educational Service Area Office 2, Pathum Thani Province, using a purposive sampling technique. The research instruments used in this study were augmented reality game activities on Mathematics on addition and subtraction of numbers up to a hundred thousand for students with learning disabilities, pretest-posttest, and a questionnaire. The statistics used to analyze data were percentage, mean, and standard deviation. The t-test for the Wilcoxon signed-rank test for the single sample critical value for W with a two-tailed alpha was .05. The research results indicated that augmented reality game activities on mathematics, specifically addition and subtraction of numbers up to a hundred thousand, were effective for students with learning disabilities, as evidenced by the results of E1/E2 at 82.40/81.33. Following participation in augmented reality game activities, learning outcomes showed a marked improvement compared to pre-learning levels. Prior to engaging in the activities, the mean score was 8.80 with a standard deviation of 2.33. The t-test conducted between pre and post-learning stages yielded a value of 20.68, demonstrating a statistically significant difference at the .05 level. Notably, scores exhibited a significant disparity at the .05 level concerning the augmented reality game activity in mathematics, emphasizing its impact on student performance. Furthermore, students with learning disabilities expressed high levels of satisfaction with the augmented reality game activities for addition and subtraction operations, averaging at 4.51.