รูปแบบการกระจายสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการขนส่งของศูนย์กระจายสินค้าแห่งหนึ่ง

Abstract

การค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษารูปแบบและกระบวนการกระจายสินค้าของศูนย์กระจายสินค้าแห่งหนึ่ง 2) เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการกระจายสินค้าของศูนย์กระจายสินค้าแห่งหนึ่ง และ 3) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายสินค้าของศูนย์กระจายสินค้าแห่งหนึ่ง เครื่องมือใช้ในการศึกษามาจากการประยุกต์ใช้วิธีการจัดเส้นทางการขนส่ง 3 วิธี ได้แก่ ปัญหาการจัดเส้นทางการเดินทางของพนักงานขาย (Traveling Salesman Problem: TSP) ปัญหาการจัดเส้นทางยานพาหนะ (Vehicle Routing Problem: VRP) และวิธีอัลกอริทึมประหยัด (SavingAlgorithm) โดยนำผลลัพธ์ที่ได้มาทำการวิเคราะห์เพื่อหาเส้นทางที่เหมาะสมและประหยัดสำหรับการขนส่งเพื่อกระจายสินค้าของศูนย์กระจายสินค้าแห่งหนึ่ง และประเมินประสิทธิภาพในการทำงานของการขนส่งด้วยอัตราจัดส่งสินค้าเต็มจำนวนและตรงเวลาและอัตราความเสียหายของสินค้า ผลการศึกษาพบว่า การจัดเส้นทางด้วยวิธีอัลกอริทึมประหยัดเป็นวิธีที่เหมาะสมกับศูนย์กระจายสินค้ามากที่สุดโดยใช้รถทั้งหมด 36 คัน ซึ่งใช้รถน้อยกว่าก่อนปรับปรุงจำนวน 12 คัน คิดเป็นร้อยละ 25 ระยะทางรวมในการขนส่ง 3,831 กิโลเมตร ลดลง 951.7 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 19.90 สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่รถได้ถึงร้อยละ 97.95 มากกว่าก่อนปรับปรุงที่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่รถได้ร้อยละ 79.59 และมีต้นทุนในการขนส่ง 83,700 บาท ลดลงจากก่อนปรับปรุง 23,400 บาท คิดเป็นร้อยละ 21.85 อัตราการจัดส่งสินค้าเต็มจำนวนและตรงเวลา อยู่ที่ร้อยละ 99.81 และหลังจากปรับปรุงเส้นทางการขนส่ง อัตราความเสียหายของสินค้าลดลงเป็นร้อยละ 0.03

The objectives of this independent study were: 1) to explore the model and distribution process of a distribution center, 2) to find a suitable distribution method for the distribution center, and 3) to increase the distribution efficiency of the distribution center. The tools used in this study were based on the 3 methods of transport routing problem analysis, namely Traveling Salesman Problem (TSP), Vehicle Routing Problem (VRP), and Saving Algorithm. The results obtained from these methods were used to analyze and find a suitable and economical route for distributing products from the distribution center, and evaluate the efficiency of the logistics operations with On-Time In-Full rate (OTIF) and damage rate. The study results were found that the Saving Algorithm is the most suitable method for the distribution center with a fleet of 36 vehicles, 12 fewer than before the renovation (25%); a total distance of 3,831 kilometers, decreased by 951.7 kilometers (19.90%); vehicle space utilization rate of 97.95%, more than before the renovation that can use the vehicle space at 79.59%; a total transportation cost of 83,700 Baht, decreased by 23,400 Baht (21.85%) with an OTIF rate of 99.81% and damage rate of 0.03%.