ความคิดเห็นของบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ต่อประสิทธิภาพโครงการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรสายสนับสนุน

Abstract

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคิดเห็นของบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่มีผลต่อประสิทธิภาพการจัดโครงการพัฒนาสมรรถนะ ของบุคลากรสายสนับสนุนและแนวทางในการพัฒนาโครงการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากร สายสนับสนุนต่อไป โดยใช้วิธีการสำรวจเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 286 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนาโดยใช้การแสดงค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมานใช้หาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรกับระดับความคิดเห็น โดยการทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ย 2 กลุ่ม ด้วย t-test และทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ย 2 กลุ่มขึ้นไปด้วย F-test การหาความสัมพันธ์ระหว่างความคิดเห็นของบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ต่อประสิทธิภาพโครงการพัฒนาสมรรถนะหลักบุคลากรสายสนับสนุน โดยการหาความสัมพันธ์ค่าสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน ผลการศึกษาพบว่า 1. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงอายุระหว่าง 31–40 ปี ระดับการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี ประเภทบุคลากรส่วนใหญ่เป็นพนักงานมหาวิทยาลัย 2. ความคิดเห็นภาพรวมต่อประสิทธิภาพโครงการพัฒนาสมรรถนะหลักของบุคลากรสายสนับสนุน อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านภาพรวมด้านเนื้อหา ภาพรวมด้านการดำเนินงาน ภาพรวมด้านวิทยากร ภาพรวมด้านประโยชน์การนำไปใช้ และภาพรวมด้านความรู้และความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก 3. จากการหาความสัมพันธ์และเปรียบเทียบความคิดเห็นพบว่า ความสัมพันธ์ในภาพรวม ด้านเนื้อหา ด้านการดำเนินงาน ด้านวิทยากร และด้านประโยชน์การนำไปใช้มีความสัมพันธ์ต่อประสิทธิภาพโครงการพัฒนาสมรรถนะหลักของบุคลากรสายสนับสนุน และเปรียบเทียบความคิดเห็นปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความแตกต่างกัน ด้านเพศ อายุ วุฒิการศึกษาและประเภทบุคลากร กับภาพรวมด้านเนื้อหา ด้านการดำเนินงาน ภาพรวมด้านวิทยากร และภาพรวมด้านประโยชน์การนำไปใช้ พบว่าปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความแตกต่างกัน มีผลต่อประสิทธิภาพโครงการพัฒนาสมรรถนะหลักของบุคลากรสายสนับสนุนแตกต่างกัน

The research aimed to study the opinion of supporting staff of Rajamangala University of Technology Thanyaburi caused the performance of capacity development project of supporting staff and the way to develop the capacity development project of supporting staff onwards. The totals of 286 questionnaires of representative sample have been collected for data. The data has been analyzed using the descriptive statistics by percentage, mean and standard deviation. The application of Inferential Statistics is to determine the relationship between the variables of the factor and the level of feedback by testing the difference between 2 groups with t-test and testing the difference between more than 2 groups with f-test. Finding the significant relationship between the variables of maintenance factor and the incentive factor for the opinion of the supporting staff as a trend of Rajamangala University of Technology Thanyaburi by finding the significant relationship of Multiple Regression.

The study indicated that 1. Most respondents were females from the age ranges from 31-40 years old. They were at the bachelor level as employees of Rajamangala University of Technology Thanyaburi. 2. The overall opinion of performance development program of support personnel at high level. The overall opinion factor in the content, management, resource person, utilization and satisfaction at high level. 3. The study found out that the content, management, resource person and utilization in relationship to the performance of core capacity development project of supporting staff. Comparison of the different opinion in personal factors: sex, age, educational background and employee type with overall opinion content, management, resource person and utilization found that the different of personal factors caused the performance of core capacity development project of supporting staff differently.