ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางผ่านทางระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร

Abstract

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอาง ผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จำนวน 400 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ Independent Sample t-test สำหรับเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยของตัวแปร 2 กลุ่มขึ้นไป และ One-way ANOVA (F-test) สำหรับตัวแปรที่มากกว่า 2 กลุ่มขึ้นไป และใช้ Chi-Square ทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ณ ระดับนัยสำคัญที่ 0.05 ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 31-40 ปี มีระดับการศึกษาต่ำกว่า ปริญญาตรี อาชีพพนักงานเอกชน มีสถานภาพโสด รายได้ต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ส่วนใหญ่ เลือกซื้อสินค้าเครื่องสำอางประเภทผิวหน้า เหตุผลที่เลือกซื้อผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะ มีความหลากหลาย ผู้ที่มีอิทธิพล ส่วนใหญ่ เลือกซื้อเพราะตนเอง ค่าใช้จ่ายต่อครั้งต่ำกว่า 1,000 บาท และเลือกชำระเงินผ่านบัญชีธนาคาร ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล ด้านเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพสถานภาพ รายได้แตกต่างกัน ให้ความสำคัญกับปัจจัยทางการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมการตลาดต่างกัน และปัจจัยด้านเพศ ระดับการศึกษา สถานภาพ ให้ความสำคัญกับปัจจัยทางการตลาดด้านราคา ด้านเว็บไซต์ ด้านส่งมอบที่ไม่แตกต่างกันและพบว่า อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ สถานภาพรายได้ มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการซื้อสินค้า

The objective of this study was to examine the factors that had influences on decision making to buy cosmetics via the electronic commerce system. The sample used in the study consisted of 400 cosmetics buyers via the electronic commerce system. The data were gathered through the application of questionnaire, and were analyzed using descriptive statistics comprising Percentage, Mean, Standard Deviation, together with inferential statistics which included Independent Samples t-test, One-way ANOVA (F-test), Chi-Square at 0.05 level of significance. The results of the study revealed that most respondent were female, aged 31-04 years old, graduated with Bachelor’s degree, were employed by private companies and single, earned a monthly income of 10,001-20,000 Baht, and preferred to buy facial cosmetics. The reason for buying cosmetics via the electronic commerce system was the product diversity, the respondents made decision to buy cosmetics via the electronic commerce system by themselves, spent less than 1,000 Baht for each purchase, and made payments through the bank accounts. The results of hypothesis testing showed that different individual factors on gender, age, level of education, occupation, marital status, and income made different marketing factors in the aspects of product and promotion. However, different gender, level of education, marital status did not cause the differences in marketing factors in the aspects of price, websites, and delivering. It was found that age, level of education, occupation, marital status and income had correlation with the buying behavior.