ทัศนคติของลูกค้าต่อการขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต จังหวัดปทุมธานี

Abstract

การค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติของลูกค้าต่อการขายผลิตภัณฑ์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต โดยใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ใช้บริการของธนาคารจำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Independent Samples t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุประมาณ 41-50 ปี มี การศึกษาในระดับปริญญาตรี สถานภาพโสด อาชีพพนักงานบริษัท มีรายได้ 25,001-35,000 บาทรู้จักหรือเคยใช้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคาร ประเภทสินเชื่อ รับรู้ข้อมูลข่าวสารผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารจากสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ มีความคิดเห็นว่า ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารคือไม่เกิน 1,000 บาท มีความคิดเห็นต่อการเสนอขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารที่จะทำให้ได้รับข้อมูลข่าวสารได้อย่างสะดวกและครบถ้วนสมบูรณ์คือการติดต่อให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ ในภาพรวมทัศนคติของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อการเสนอขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารอยู่ในระดับมากที่สุดคือ ด้านการส่งเสริมการตลาด รองลงมาคือด้านลักษณะทางกายภาพและด้านที่น้อยที่สุดคือด้านผลิตภัณฑ์บริการ และพบว่าการ รับรู้ข้อมูลข่าวสารผลิตภัณฑ์และค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมที่แตกต่างกันทำให้ทัศนคติที่มีต่อการเสนอขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

The purpose of this independent study was to explore customer's attitude toward the selling of financial products at Bank of Ayudhya, Future Park Rangsit Branch. The sample group was 400 bank's customers. Questionnaires were the research tool used to collect data. Data were analyzed using Frequency, Percentage, Mean, Standard Deviation, Independent Samples t-test, and One-way ANOVA at the statistical significant level of 0.05. The results found that most the sample group were females, 41-50 years old, Bachelor's degree, single, corporate employees, monthly income 25,001-35,000 baht, aware of/familiar with banking loan products, and aware of financial products information from the advertising media and public relations. The study revealed that the proper expense for choosing a financial product was not in excess of 1000 baht, and the proper channel to receive complete and convenient information about products was telephone contact. Overall, in attitudes toward proposing to sell financial products, promotion was in the highest level, followed closely by physical characteristics, and service products were in the least level. The differences in awareness of products information and proper expenses affected attitudes toward proposing to sell financial products at the statistical significant level of 0.05.