ผลของค่าความเป็นกรด-ด่างและการเก็บรักษาในซองแผ่นอลูมิเนียมต่อคุณสมบัติของเมือกกระเจี๊ยบเขียว

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาผลของค่าความเป็นกรด-ด่างต่อคุณสมบัติของ เมือกกระเจี๊ยบเขียว และเพื่อศึกษาอายุการเก็บรักษาของเมือกกระเจี๊ยบเขียวในซองแผ่นอลูมิเนียม วิธีการวิจัย คือ ศึกษาคุณสมบัติของเมือกกระเจี๊ยบเขียวที่ผ่านการฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที โดยวิเคราะห์คุณภาพทางกายภาพ เคมี และจุลชีววิทยา และนำเมือกกระเจี๊ยบเขียวที่ผ่านการฆ่าเชื้อไปศึกษาผลของค่าความเป็นกรด-ด่างต่อคุณภาพด้านความหนืดของเมือกกระเจี๊ยบเขียว หลังจากนั้นศึกษาอายุการเก็บรักษาของเมือกกระเจี๊ยบเขียวในซองแผ่นอลูมิเนียมโดยทาการวิเคราะห์คุณภาพทางกายภาพ เคมี และจุลชีววิทยา ผลการวิจัย พบว่า เมือกกระเจี๊ยบเขียวที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยอุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที มีค่าความหนืดอยู่ที่ 0.50 พ้อยซ์ (P) ผลของการวิเคราะห์ด้วยเครื่องวัดความหนืดแบบรวดเร็ว (RVA) พบว่า มีค่าเฉลี่ยของ Pasting temperature เท่ากับ 54 องศาเซลเซียส ความหนืดเริ่มต้นเท่ากับ 110 เซนติพ้อยซ์ (cP) ค่า Peak viscosity, Final viscosity และค่า Setback มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 120, 104 และ 37 เซนติพ้อยซ์ ตามลาดับ ค่าความเป็นกรด-ด่าง เท่ากับ 6.3 และปริมาณเยื่อใยร้อยละ 0.04 คุณภาพทางจุลชีววิทยา พบว่า อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เมื่อนาเมือกกระเจี๊ยบเขียวไปบ่มในสภาวะความเป็นกรด-ด่าง 3 ระดับ คือ 1, 3 และ 5 ใช้เวลาในการบ่ม 10 และ 20 นาที พบว่า เมื่อความเป็นกรด-ด่างลดลง และเวลาในการบ่มเพิ่มขึ้นจะทาให้ความหนืดลดลงอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (P ≤ 0.05) เมื่อนาเมือกกระเจี๊ยบเขียวในซองแผ่นอลูมิเนียมมาศึกษาอายุการเก็บรักษา พบว่า ค่าความหนืด มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเท่ากับ 0.6-1.3 พ้อยซ์ และค่าความเป็นกรด-ด่างมีแนวโน้มที่จะลดลงเท่ากับ 6.28-6.24 เมือกกระเจี๊ยบเขียวในซองแผ่นอลูมิเนียมสามารถเก็บที่อุณหภูมิห้องได้ 4 สัปดาห์